ไมโครซอฟท์ เดินหน้าปรับโครงสร้างองค์กรครั้งใหญ่ โดยปลดพนักงานกว่า 6,000 คนทั่วโลก ซึ่งในจำนวนนี้มีพนักงานในรัฐวอชิงตัน สหรัฐอเมริกา — ที่ตั้งสำนักงานใหญ่ของบริษัท — ถูกปลดออกประมาณ 2,000 คน
จากรายงานของ Bloomberg พบว่า กลุ่มโปรแกรมเมอร์หรือวิศวกรซอฟต์แวร์เป็นผู้ที่ได้รับผลกระทบมากที่สุด โดยคิดเป็นมากกว่า 40% ของจำนวนผู้ถูกปลดในรัฐวอชิงตัน หรือราว 800 คน ขณะที่พนักงานในสายงานขายและการตลาดได้รับผลกระทบน้อยกว่าอย่างมีนัยสำคัญ
แม้ไมโครซอฟท์จะไม่ได้เปิดเผยสัดส่วนของโปรแกรมเมอร์ในพนักงานทั้งหมด แต่ก็เป็นที่ทราบกันว่าเป็นกลุ่มที่มีจำนวนมากในองค์กร ทั้งนี้ การปลดพนักงานครั้งนี้เกิดขึ้นท่ามกลางการเปลี่ยนแปลงด้านเทคโนโลยี โดยเฉพาะการใช้งาน AI ที่มีบทบาทมากขึ้นในการพัฒนาโค้ด
Satya Nadella ซีอีโอของไมโครซอฟท์เปิดเผยเมื่อเดือนที่ผ่านมา ว่า ปัจจุบัน AI สามารถช่วยเขียนโค้ดได้ถึง 30% ของโค้ดทั้งหมดของบริษัท ซึ่งสะท้อนถึงการเปลี่ยนผ่านของบทบาทมนุษย์ในกระบวนการพัฒนาเทคโนโลยี
ทางด้าน TechCrunch ได้สอบถามไมโครซอฟท์ว่า การปลดพนักงานมีความเกี่ยวข้องกับการใช้ AI ในการเขียนโค้ดหรือไม่ แต่ทางบริษัทปฏิเสธที่จะให้ความเห็น โดยระบุเพียงว่า การปลดพนักงานเป็นส่วนหนึ่งของความพยายามในการลดขั้นตอนการบริหาร และเพิ่มความคล่องตัวในการดำเนินงาน
การเปลี่ยนแปลงครั้งนี้จึงนับเป็นสัญญาณสำคัญของการเปลี่ยนผ่านสู่ยุคที่ AI เริ่มมีบทบาทแทนมนุษย์ในงานด้านวิศวกรรมซอฟต์แวร์อย่างชัดเจน และอาจส่งผลต่อโครงสร้างแรงงานในอุตสาหกรรมเทคโนโลยีในระยะยาว
รายละเอียด TC