กลุ่มแฮ็กเกอร์ใหม่ชื่อ “Belsen Group” ได้เปิดเผยข้อมูลสำคัญของอุปกรณ์ FortiGate กว่า 15,000 เครื่องบนดาร์กเว็บ ซึ่งรวมถึงไฟล์คอนฟิกูเรชัน ที่อยู่ IP และข้อมูลการเข้าถึง VPN สำหรับใช้โดยอาชญากรไซเบอร์กลุ่มอื่นๆ ข้อมูลนี้มีมูลค่าสูง เนื่องจากเป็นการเปิดเผยข้อมูลทางเทคนิคที่ละเอียดอ่อน
ข้อมูลที่รั่วไหลมาในรูปแบบไฟล์ขนาด 1.6 GB ที่จัดเรียงตามประเทศ โดยในแต่ละประเทศจะมีโฟลเดอร์ย่อยสำหรับที่อยู่ IP ของ FortiGate แต่ละเครื่อง ซึ่งในแต่ละไฟล์ยังมีข้อมูลที่เป็นอันตราย เช่น รหัสผ่านในรูปแบบข้อความธรรมดา รวมถึงกุญแจส่วนตัวและกฎของไฟร์วอลล์
กลุ่ม Belsen Group ซึ่งปรากฏตัวครั้งแรกในเดือนนี้ ได้เปิดเผยข้อมูลดังกล่าวผ่านเว็บไซต์บน Tor เพื่อโปรโมตกลุ่มของตนเอง โดยในโพสต์ฟอรัมแฮ็กเกอร์ พวกเขาได้ประกาศว่า การรั่วไหลนี้เป็นการดำเนินการอย่างเป็นทางการครั้งแรกของกลุ่ม และข้อมูลที่เผยแพร่ได้แก่ข้อมูลที่สำคัญจากกว่า 15,000 เป้าหมายทั่วโลก ซึ่งรวมถึงทั้งภาครัฐและเอกชน
Kevin Beaumont ผู้เชี่ยวชาญด้านความปลอดภัยทางไซเบอร์ ได้ระบุว่า การรั่วไหลของข้อมูลนี้เชื่อมโยงกับช่องโหว่ zero-day CVE-2022–40684 ที่ถูกโจมตีก่อนที่จะมีการออกแพตช์แก้ไข โดยเขาได้ทำการตรวจสอบอุปกรณ์ขององค์กรที่ถูกโจมตี และยืนยันว่า การใช้ประโยชน์จากช่องโหว่นี้เป็นการโจมตีที่ใช้ช่องโหว่ CVE-2022–40684 นอกจากนี้เขายังสามารถยืนยันได้ว่า ชื่อผู้ใช้งานและรหัสผ่านที่พบในข้อมูลที่รั่วไหลตรงกับรายละเอียดที่พบในอุปกรณ์จริง
รายงานระบุว่าอุปกรณ์ทั้งหมดที่ได้รับผลกระทบถูกติดตั้ง FortiOS เวอร์ชัน 7.0.0-7.0.6 หรือ 7.2.0-7.2.2 โดยส่วนใหญ่อยู่ที่เวอร์ชัน 7.2.0 และไม่มีการพบเวอร์ชันใหม่กว่านี้ในชุดข้อมูลที่ถูกรวบรวมไว้ ซึ่งเวอร์ชัน 7.2.2 ถูกปล่อยออกมาเมื่อวันที่ 3 ตุลาคม 2022
จากข้อมูลที่เปิดเผยพบว่า ชุดข้อมูลเหล่านี้น่าจะถูกรวบรวมในเดือนตุลาคม 2022 ซึ่งตรงกับช่วงเวลาที่เกิดช่องโหว่ Zero Day อย่างไรก็ตาม ข้อมูลการตั้งค่าเหล่านี้เพิ่งถูกปล่อยออกมาในวันนี้ หลังจากผ่านไปกว่า 2 ปี
ย้อนกลับไปในปี 2022 บริษัท Fortinet ได้ออกคำเตือนเกี่ยวกับการโจมตีจากผู้ไม่ประสงค์ดีที่ใช้ช่องโหว่ Zero Day โดยช่องโหว่นี้ได้รับรหัส CVE-2022-40684 โดยผู้โจมตีได้ดาวน์โหลดไฟล์การตั้งค่าจากอุปกรณ์ FortiGate ที่เป็นเป้าหมาย จากนั้นเพิ่มบัญชีผู้ดูแลระบบ (super_admin) ที่เป็นอันตรายชื่อ “fortigate-tech-support” เข้ามา
การรั่วไหลของข้อมูลในครั้งนี้เป็นการเตือนให้ผู้ใช้งาน FortiGate ทั่วโลกระมัดระวัง และเร่งดำเนินการแก้ไขช่องโหว่ที่มีอยู่เพื่อป้องกันการโจมตีจากอาชญากรไซเบอร์ที่อาจเกิดขึ้นในอนาคต
อ่านเพิ่มเติมที่นี่ – BPC